1.งานหรือที่ทำงานไม่เป็นไปตามที่วาดภาพไว้
ผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 35% ลาออกภายในหกเดือนแรกที่เข้าทำงานทั้งนี้เพราะพนักงานเข้าใหม่จำนวนมากเข้าทำงานกับบริษัทโดยพกพาความคาดหวังที่เกินจริง
กับความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับงานและองค์กรส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผู้สัมภาษณ์วาดภาพที่สวยหรูขององค์กรจนเกินคจริงหรือไม่ได้ฉายสภาพงานที่เป็นจริงให้กับผู้เข้าสัมภาษณ์ทราบ
หลังเข้างานพนักงานบางคนก็สามารถปรับเปลี่ยนความเข้าใจกับความคาดหวังได้และอยู่ทำงานต่อได้ บางคนก็อยู่ต่อไปอย่างผิดหวังและไม่มีความรักผูกพันกับงานเลยบางคนก็อยู่อย่างผิดคลาดพลาดหวังและลาออกไปในที่สุด
2.งานกับคนไม่เหมาะกัน
ความรู้ความสามารถของพนักงานไม่เหมาะสมกับงานโดยอาจเกิดจากการรีบว่าจ้างเข้าทำงานเพื่อเติมตำแหน่งที่ว่างลง หรือเชื่อว่าแม้ผู้สมัครอาจขาดคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานแต่บริษัทสามารถจะฝึกอบรมในภายหลังได้
3.ไม่มีการสอนงาน และไม่มีการป้อนกลับผลการทำงาน
ผู้จัดการส่วนมากโค้ชงานและให้ feedback พนักงานปีละครั้งหรือสองครั้งตามที่องค์กรกำหนดเพื่อไปผูกกับการขึ้นเงินเดือนเท่านั้นซึ่งความจริงผู้จัดการจะต้องสอนงานและ feedback ถี่ๆ บ่อยๆ เป็นระยะๆ
4.ไม่ค่อยมีโอกาสเติบโตและก้าวหน้าในสายงาน
ในการสำรวจความเห็นพนักงานเกี่ยวกับลำดับ competency 67อย่างที่ผู้นำของตัวเองมีอยู่นั้น ผลปรากฏว่า “การพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา”
เป็น competency ที่ผู้นำมีน้อยที่สุดเป็นอันดับสุดท้ายปัญหาข้อนี้มีเกิดจากการที่ผู้จัดการไม่ค่อยหาเวลามาพูดคุยเรื่องสายอาชีพกับพนักงาน,
นโยบายอายุงานที่ขัดขวางการเลื่อนตำแหน่ง และการที่หัวหน้างานหวงพนักงานที่มีความสามารถไว้ในแผนกตัวเองทำให้ปิดกั้นโอกาสการขึ้นตำแหน่งในแผนกงานอื่นๆ
5.รู้สึกถูกตีค่าต่ำไป และผลงานที่ดีไม่ได้การตอบสนอง
พนักงานรู้สึกว่าไม่ได้รับการชื่นชมผลงานที่ทำได้ดี, ไม่ได้รับเงินเดือนที่ยุติธรรมในตำแหน่งงานที่เหมือนกัน, หัวหน้าปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่ให้เกียรติ,
ไม่ได้รับเครื่องไม้เครื่องมือหรือทรัพยากรที่เหมาะสมในการทำงานหรือต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ แ ย่ ยอมรับไม่ได้
6. เ ค รี ย ด จากงานมากเกินและขาดสมดุลระหว่างงานกับชีวิต
พนักงานกว่า 40% บอกว่า งานที่ทำเป็นงานที่หนักและกดดันมาก 70%บอกว่าไม่มีสมดุลระหว่างงานกับชีวิตถึงขนาดที่ 60% บอกว่ายอมลดเงินเดือนลงให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวได้มากขึ้น
7.หมดศรัทธาและความเชื่อมั่นในผู้บริหารระดับสูง
พนักงานรู้สึกว่า ผู้บริหารองค์กรใส่ใจแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าของตัวเองไม่ได้ใส่ใจในความอยู่ดีกินดีของพนักงานโดยแท้จริง, ไม่ทำตามนโยบาย
หลักปฏิบัติ หรือค่านิยมที่ประกาศไว้ ทำให้พนักงานขาดความเลื่อมใสเกิดข้อกังขาในนโยบายและหลักปฏิบัติขององค์กรทำให้ตัวพนักงานหมดความกระตือรืนร้นในการทำงาน